.


Free เมาส์น่ารัก

.









































วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ข้าวโพด

ข้าว โพด เป็นพืชล้มลุก ลำต้นตรงกลมต่อกันเป็นปล้อง สูงประมาณ 1-2 เมตร ใบเลี้ยงเดี่ยวเรียวยาวก้านใบหุ้มลำต้น ออกดอกบริเวณกาบใบ เมื่อโตขึ้นจะเป็นฝักข้าวโพด ข้าวโพดที่นิยมรับประทานกันมากที่สุดคือข้าวโพดหวาน เพราะมีรสชาติหวานอร่อย และข้าวโพดหวานต้องรู้จักระยะเวลาที่เหมาะสมในการเก็บ ข้าวโพดอ่อนจะมีสรชาติหวานแต่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการมากพอ ส่วนข้าวโพดที่แก่จัดเกินไปจะเปลี่ยนเป็นแป้ง หรือคาร์โบไฮเดรด ที่ให้พลังงานและแคลอรีสูง
น้ำข้าวโพด
ส่วนผสม
1. ข้าวโพดหวาน 5 ฝัก
2. น้ำต้มใบเตย 7 ถ้วยตวง (ใช้ใบเตยล้างหั่นประมาณ 5 ใบ)
3. เกลือป่น 1 ช้อนชา
4. น้ำเชื่อม ครึ่งช้อนชา
วิธีทำ
1. ลอกเปลือกข้าวโพดออกล้างให้สะอาด ฝานเมล็ดข้าวโพดบาง ๆ (ส่วนเปลือกข้าวโพดนำไปต้มน้ำให้หอม)
2. ใส่ข้าวโพดลงในโถปั่น เติมน้ำต้มใบเตยพอควร เปิดสวิชท์ปั่นจนละเอียดดีแล้วกรองผ่านกระชอน (ควรนำส่วนเนื้อข้าวโพดที่กรองได้มาปั่นครั้งที่ 2 พร้อมน้ำใบเตย หรืออาจใช้น้ำข้าวโพดที่ปั่นไว้ก่อน)
3. นำน้ำข้าวโพดทั้งหมด ใส่หม้อสเตนเลสตั้งไฟ เติมเกลือ น้ำเชื่อมลงไป ควรคนด้วยพายไม้เพื่อไม่ให้ไหม้ ต้มพอสุกข้น ยกลงพักไว้ (ระวังอย่าให้ร้อนถึงจุดเดือด เพราะจะสุกเกินไปเกิดการแยกตัว)
4. เสิร์ฟร้อนหรือเย็นตามชอบ
เทคนิคการทำ
1. ควรใช้ข้าวโพดใหม่ สด จะได้นมข้าวโพดที่หอมอร่อย
2. ควรปั่นข้าวโพด 2 ครั้ง เพื่อให้ได้น้ำเข้มข้น
3. ควรต้มนมข้าวโพดให้สุกข้นจึงหอมอร่อย
4. ควรระวังอย่าให้นมข้าวโพดเดือดนานเกินไปจะแยกตัว
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร :
1. เมล็ดข้าวโพดมีแคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัสสูง โปรตีน แป้ง วิตามินเอ
2. ฝักอ่อน ใช้ผัดเป็นอาหาร
3. ฝักข้าวโพด ใช้ต้ม ย่างรับประทาน ทำซุปข้าวโพด ทำแป้งข้าวโพด
คุณค่าทางยา :
1. ฝอยข้าวโพดสีน้ำตาล ใช้ทำน้ำมันระเหย มีสารที่เป็นอัลคาลอยด์ที่ระเหยได้
2. ฝอยข้าวโพดใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
3. ซังข้าวโพด ใช้ปรุงเป็นยารักษาตานขโมยในเด็ก
เป็นไงคะ เห็นสรรพคุณกันแล้ว ไปหาซื้อข้าวโพด ลองทำน้ำข้าวโพดทานกันดูนะคะ ทำมาแล้วอร่อยค่ะสูตรนี้นอกเหนือจากข้าวอันเป็นอาหารหลักที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวันแล้ว ทุกคนคงเคยลิ้มลองรสชาติอันหวานมันของข้าวโพดซึ่งเป็นพืชที่นำประโยชน์มาใช้ได้แทบทุกส่วน ซึ่งเฉพาะเมล็ดนั้นวิธีการรับประทานก็สารพันจะสรรหากันแล้ว ไม่ว่าจะนำมาต้ม ปิ้ง คลุกเนย ทอด หรือการใช้ประโยชน์จากการนำมาแปรรูป เช่น แป้งข้าวโพด นม เหล้า เบียร์ วิสกี้ น้ำตาลผง สบู่ น้ำยาทำความสะอาด เครื่องสำอางค์ น้ำเชื่อม น้ำหวาน น้ำสลัด เนยเทียมและมายองเนส เป็นต้น

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ข้าวโพดเป็นธัญพืชที่นิยมนำมาแปรรูปเป็นอาหารนานาชนิดก็เนื่องจากเป็นพืชที่ให้พลังงานสูง เพราะมีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบหลัก แถมยังมีโปรตีน ไขมัน เกลือแร่ และวิตามินที่มีประโยชน์อีกมากมาย เช่นวิตามินซี เอในรูปเบต้าแคโรทีน อีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ ลูเทียน และซีแซนทิน ซึ่งเป็นสารคาโรตีนอย ช่วยป้องกันตาเสื่อมสภาพ

ส่วนประโยชน์ด้านอื่นๆ คงหนีไม่พ้นสรรพคุณทางยา ที่คนโบราณค้นพบและนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่นเมล็ดของมันใช้ทานเพื่อบำรุงร่างกาย หัวใจ ปอดขับปัสสาวะ และนำมาบดพอกรักษาแผล นอกเหนือจากนี้ยังใช้ซังข้าวโพดต้มนำน้ำมาดื่มแก้บิด ท้องร่วง ขับปัสสาวะ ต้น ราก และไหมข้าวโพด รสจืดหวาน ต้มเอาน้ำดื่ม ขับปัสสาวะได้ด้วย

สารอาหารในเมล็ดข้าวโพด 100 กรัมนั้น ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต 8.2 กรัม โปรตีน 11.1 กรัม เกลือแร่ 1.7 กรัม ไขมัน 4.9 กรัม และเส้นไยหยาบอีก 2.1 กรัม แนะซักนิด สำหรับผู้ที่ชอบการรับประทานข้าวโพดเป็นชีวิตจิตใจว่า หากจะรับประทานข้าวโพดเมื่อใดก็ควรล้างน้ำเปล่าให้สะอาดเสียก่อน หากซื้อจากร้านค้าก็ควรเลือกชนิดที่ไม่ฟอกหรือขัดมากจนเกินไป เพราะจะเสียคุณค่าทางอาหาร และอาจมีสารขัดสีตกค้างเป็นของแถม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ ที่ควรเลือกแต่สินค้าที่ได้มาตรฐานและได้รับการรับรองแล้วเท่านั้น

เห็นกันแล้วว่าการรับประทานข้าวโพดเพียงชนิดเดียวก็ได้รับประโยชน์อันมหาศาล ดังนั้นถ้าบ้านใครมีพื้นที่ว่างพอที่จะปลูกได้ล่ะก็อย่ารีรอกันอยู่เลย เพราะวิธีการปลูกนั้นง่ายนิดเดียว เพียงหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดลงในหลุมดินร่วนที่ขุดไว้ 3-5 เมล็ด เมื่อต้นกล้างอกให้ถอนออกเหลือหลุมละ 1 ต้น เท่านี้ก็จะได้ข้าวโพดที่เป็นได้ทั้งอาหารและยาไว้รับประทานกันในบ้านโดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องสารพิษตกค้างอีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น